อย่าเครียด...เรื่องนี้เกี่ยวกับตับ
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่จะเกิดความรู้สึกเครียด วิตกกังวล มีความรู้สึกอ่อนไหว เปราะบาง
หรือซึมเศร้าเป็นเพียงชั่วคราวเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากและมีปัญหาหนักใจทั้งหลาย แต่ถ้าหากว่าความรู้สึกด้านลบ
เหล่านี้ของคุณเรื้อรังเป็นเวลานาน หรือคุณรู้สึกทนคนอื่นไม่ได้บ่อยๆ มีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย เกรี้ยวกราดรุนแรงกว่าที่ควร
ทั้งๆที่อาจเป็นเพียงเรื่องกวนใจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เช่น ถูกขับรถปาดหน้า ลูกทำนมหกหรือคนใกล้ตัวทำอะไรไม่ถูกใจ เป็นต้น
คุณอาจเคยชินกับความรู้สึกด้านลบหรืออารมณ์ปรวนแปรของตนเอง และโทษว่าทั้งหมดนี้เกิดจากความเคร่งเครียดในชีวิตประจำวัน หรือไม่ก็ปลอบใจตัวเองว่าเป็นนิสัยส่วนตัว แต่หารู้ไม่ สุขภาพด้านจิตอารมณ์ของคนเราได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสุขภาพกาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัศนะการแพทย์จีนนั้น สุขภาพของตับจะมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ การมีความรู้สึก
ด้านลบหรืออารมณ์ปรวนแปรเป็นประจำเป็นการบ่งบอกว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับตับของคุณ
ความผิดปกติของอาการสัมพันธ์กับภาวะพลังชี่อั้นในตับอย่างไร
ผลกระทบด้านจิตใจและอารมณ์:
การระบายพลังชี่อันให้กระจายไปสู่ทั่วทั้งร่างกายของตับนั้นมีบทบาทสำคัญในการกำหนดการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์
การทำหน้าที่ของตับส่วนนี้ตรงกับแนวคิดที่ว่า ตับมีความสัมพันธ์กับการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติในการแพทย์ตะวันตก
เมื่อความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลงก็จะทำให้พลังชี่อันถูกอั้นไว้ในตับ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดและพลังชี่อัน
ในเส้นลมปราณตับเกิดการติดขัด หากเกิดขึ้นกับเส้นลมปราณตับส่วนบนที่เดินผ่านสมองก็จะทำให้สมองมีการผลิตสารเคมีทั้งหลาย
ที่ทำให้คนเราไม่เครียดและรู้สึกอารมณ์ดีลดลง จึงเกิดความเครียด วิตกกังวล ขี้หงุดหงิด โกรธเกรี้ยว มีความรู้สึกอ่อนไหว
เปราะบาง หดหู่หรือซึมเศร้า ได้ง่ายขึ้นและบ่อยขึ้น และในทางกลับกัน ความรู้สึกด้านลบและอารมณ์ที่ปรวนแปรก็จะไปเพิ่ม
ความรุนแรงของภาวะพลังชี่อั้นในตับหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สุขภาพร่างกายที่ไม่ดีจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต
ขณะเดียวกันสุขภาพจิตไม่ดีก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกัน
เสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านม ตับหรือมดลูก:
เส้นลมปราณตับเกี่ยวข้องกับเต้านม ตับ ประจำเดือนและมดลูก ภาวะพลังชี่อั้นในตับทำให้การไหลเวียนของพลังชี่อั้น
และเลือดไม่คล่องตัว จึงเกิดการสั่งสมพิษในร่างกาย เมื่อพิษนี้สั่งสมเป็นเวลานานก็จะจับตัวเป็นก้อน ถ้าเพียงอุดกั้นเท่านั้น
ก็จะเป็นเนื้องอกที่ไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าการจับตัวเป็นก้อนนั้นมีพิษมากก็จะกลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งนั่นเอง ซึ่งเปรียบเสมือน
ท่อประปาที่มีแรงดันน้ำต่ำเกินไปก็จะทำให้น้ำในท่อไหลเอื่อยๆ และตกตะกอนได้ง่าย เมื่อเวลาเนิ่นนานไปก็จะเกาะกลุ่ม
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นก้อนใหญ่ทำให้ท่อตันได้ ประกอบกับความรู้สึกด้านลบและอารมณ์ปรวนแปรที่เกิดจากภาวะพลังชี่อั้นในตับ
จะไปส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง จึงไม่สามารถกำจัดเซลล์แปลกปลอมได้ทั้งหมดและติดเชื้อ
ได้ง่ายขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านม ตับหรือมดลูก
ผลกระทบต่ออวัยวะตามเส้นลมปราณตับ:
การติดขัดของเส้นลมปราณตับส่วนบนนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการผลิตสารเคมีทั้งหลายที่ทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดีแล้ว
ยังทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ต่อมไทรอยด์อักเสบ รู้สึกมีอะไรจุกอยู่ในคอหอย จะกลืนก็ไม่ลงจะคายก็ไม่ออก ผิวหน้าซีดเหลือง
มีฝ้าฮอร์โมนบนใบหน้า หางคิ้วและระหว่างคิ้วมีริ้วรอยก่อนเวลาอันควรมุมปากหรือริมฝีปากหมองคล้ำ เป็นต้น
การติดขัดของเส้นลมปราณตับส่วนกลางจะทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือคัดเต้านมโดยเฉพาะในสตรี
จะเป็นมากขึ้นช่วงก่อนมีประจำเดือน เนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านมและมดลูก รู้สึกหายใจไม่เต็มท้อง ทำให้ต้องถอนหายใจบ่อยๆ
ปวดแน่นบริเวณชายโครง ตับอักเสบ ตับแข็ง เนื้องอกหรือมะเร็งในตับ เป็นต้น
ส่วนการติดขัดของเส้นลมปราณตับส่วนล่างจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องตึงตัวทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น
ปวดท้องน้อย รู้สึกปวดหน่วงอัณฑะ ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาเป็นลิ่ม ดำคล้ำ ประจำเดือนขาดหายไป เป็นต้น
และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สตรีไม่ถึงจุดสุดยอดในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย
ผลกระทบต่อการย่อย ดูดซึมและลำเลียงอาหาร:
การระบายพลังชี่ของตับมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของกระเพาะอาหารและม้าม ซึ่งมีหน้าที่ในการย่อยดูดซึมและลำเลียงอาหาร หากพลังชี่อั้นในตับไม่สามารถระบายไปสู่ทั่วร่างกายก็จะทำให้ตับ กระเพาะอาหารและม้ามทำงานไม่สัมพันธ์กัน
พร้อมทั้งส่งผลกระทบต่อการสร้างและการขับน้ำดี ทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ คล้ายอาหารไม่ย่อย
เรอบ่อยกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง ท้องร่วงหรืออุจจาระหยาบไม่จับตัวเป็นก้อน เมื่อกระบวนการย่อยดูดซึมและลำเลียงอาหารบกพร่องเป็นเวลานานย่อมส่งผลกระทบต่อการสร้างเลือดและพลังชี่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการของหัวใจซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทและการไหลเวียนของโลหิต เช่น ใจสั่น นอนไม่หลับ นอนหลับแต่ฝันร้าย ตื่นตอนกลางคืนแล้วหลับยาก
หรือนอนหลับมากเกินไป ขี้ลืม ตกใจง่าย เป็นต้น
ภาวะพลังชี่อั้นในตับเกิดจากสาเหตุอะไร
สาเหตุภายนอก : สภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวันบีบบังคับให้ต้องตกอยู่ในความรู้สึกด้านลบบ่อยๆ เช่น ความโกรธ
ความคับข้องใจ ครุ่นคิดไม่เลิก ผิดหวัง เสียใจ ความกลัว ความรู้สึกผิดหรือละอายแก่ใจ เป็นต้น เมื่อคนเราอยู่ในความรู้สึกด้านลบ
และอารมณ์ปรวนแปรเป็นประจำก็จะส่งผลให้พลังชี่และเลือดในร่างกายไหลเวียนไม่คล่อง ทำให้ความสามารถในการระบาย
พลังชี่ของตับลดลงจนเกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับ ในขณะเดียวกันภาวะพลังชี่อั้นในตับนั้นก็จะไปเพิ่มความรุนแรงของความรู้สึกด้านลบและทำให้อารมณ์ปรวนแปรมากขึ้น จึงถือว่าเป็นวงจรที่จะส่งผลร้ายซึ่งกันและกัน ภาวะพลังชี่อั้นในตับมักจะค่อยๆ เรื้อรัง
และกัดกร่อนสุขภาพอย่างเงียบๆ ทำให้ผู้ป่วยชินกับอาการผิดปกติของร่างกายจนลืมไปว่าตอนปกติจริงๆนั้นเป็นอย่างไร
แต่ผลกระทบด้านจิตใจที่รุนแรงและเฉียบพลัน เช่น คนใกล้ตัวเสียชีวิต คนใกล้ตัวป่วยหนัก หย่าร้าง อกหัก
มีปัญหาทางการเงินและหนี้สิน ถูกดำเนินคดี เป็นต้น ถึงแม้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้ความสามารถ
ในการระบายพลังชี่ของตับลดลงอย่างรวดเร็วจนเกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับได้อย่างเฉียบพลัน
สาเหตุภายใน : โรคเรื้อรังทั้งหลายนอกจากจะทำให้ผู้ป่วยต้องตกอยู่ในความรู้สึกด้านลบอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงแล้ว
ยังทำให้การไหลเวียนของเลือดและพลังชี่ในร่างกายเกิดความปั่นป่วน จึงส่งผลให้เกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับได้เช่นกัน
พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน : การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหาร
เผ็ดมันมากเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานหามรุ่งหามค่ำขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ
การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร
สำหรับภาวะพลังชี่อั้นในตับนั้น การแพทย์จีนแนะนำสิ่งที่ควรจะปฏิบัติในเบื้องต้นคือพยายามควบคุมอารมณ์
ทำจิตใจให้แจ่มใส มองโลกในแง่ดีและออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมทั้งควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ในชีวิตประจำวันให้ถูกสุขลักษณะ เช่นพักผ่อนให้เพียงพออย่าทำงานหักโหมเกินไป งดเหล้า บุหรี่และลดอาหารเผ็ด มัน เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีอาการของภาวะพลังชี่อั้นในตับโดยเฉพาะผู้ที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน การปฏิบัติตามวิธีดังกล่าว
ย่อมไม่เพียงพอ การแพทย์จีนแนะนำควรใช้สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณในการปรับและระบายพลังชี่ในตับทำให้ตับสามารถ
ระบายพลังชี่ให้กระจายไปสู่ทั่วร่างกายเส้นลมปราณตับจึงไม่สะดุดและติดขัดเลือดและพลังชี่ก็จะไหลเวียนได้สะดวกขึ้นจากการวิจัยและทดลองทางการแพทย์และเภสัชวิทยาในปัจจุบันพบว่า ยาสมุนไพรจีนที่อยู่ในรูปแบบสารสกัดเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ
และความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากสามารถสกัดและควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้นและแม่นยำ อาการเครียด วิตกกังวล
ขี้หงุดหงิด ความโกรธเกรี้ยว ความรู้สึกอ่อนไหว เปราะบางหรือซึมเศร้า เบื่ออาหาร ท้องอืดท้องเฟ้อเรอบ่อยและอาการอื่นๆ
ที่เกิดจากภาวะพลังชี่อั้นในตับจึงค่อยๆ ทุเลาลงหรืออาจหายไปในที่สุด
การบำบัดภาวะพลังชี่อั้นในตับทำไมต้องควบคู่กับการบำรุงไต?
ในทัศนะการแพทย์จีน ไตคือรากฐานของชีวิต ความชราภาพของคนเราเกิดจากความเสื่อมโทรมของไต
ซึ่งมีหลายสาเหตุด้วยกัน ส่วนภาวะพลังชี่อั้นในตับก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่จะเร่งให้ไตเสื่อมลงอย่างรวดเร็วและก่อนวัยอันควร
ทั้งนี้ เนื่องจากไตและตับเป็นอวัยวะมีรากฐานเดียวกัน ไตเป็นอวัยวะกักเก็บสารจิง
ซึ่งเป็นสารจำเป็น
ในการดำรงชีวิตและได้มาจากสารอาหารในชีวิตประจำวัน ส่วนตับเป็นอวัยวะกักเก็บเลือด สารจิง
และเลือดสามารถแปรเปลี่ยนและทดแทนซึ่งกันและกัน ผลกระทบจากภาวะพลังชี่อั้นในตับที่มีต่อกระบวนการย่อย
ดูดซึมและลำเลียงอาหารนั้นย่อมทำให้ไตได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ สารจิงในไตจึงพร่องลง ทำให้ตับต้องส่งเลือด
มาให้ไตเรื่อยๆเพื่อแปรเปลี่ยนเลือดเป็นสารจิงมาชดเชยส่วนที่ขาดหายไป และในทางกลับกัน เมื่อเลือดในตับพร่องลง
ไตก็จะส่งสารจิงในไตไปให้ตับเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นเลือดเช่นกัน ตับและไตจึงมีความสัมพันธ์แบบเกื้อหนุนและอาศัย
ซึ่งกันและกัน ความเสื่อมโทรมของอวัยวะชิ้นใดชิ้นหนึ่งย่อมจะไปฉุดให้อวัยวะอีกชิ้นหนึ่งเสื่อมโทรมลงไปด้วย ดังนั้น
หากมีการบำบัดภาวะพลังชี่อั้นในตับควบคู่กับการบำรุงไตจะทำให้ผลการรักษาเด่นชัดและเป็นที่น่าพอใจมากยิ่งขึ้น
ดื่มเหล้าแก้เครียดได้จริงหรือ?
คนที่มีเรื่องกลุ้มใจมักดื่มเหล้าเพื่อดับทุกข์ เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเหล้าจะช่วยให้ครึกครื้นหรือผ่อนคลาย แต่จริงๆแล้วแอลกอฮอล์กลับทำให้รู้สึกแย่ลงไปอีก การดื่มเหล้าทำให้ซึมเศร้าได้ ซึ่งอาการมักเกิดขึ้นหลังจากดื่มไปแล้วประมาณ 6-12 ชั่วโมง
ในช่วงนี้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ความเครียดและวิตกกังวลก็ครอบงำจิตใจได้ง่ายและในทัศนะการแพทย์จีน การดื่มเหล้าเป็นประจำเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับ ดังนั้น ผู้ที่ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำควรจะป้องกัน
และบำบัดภาวะพลังชี่อั้นในตับแต่เนิ่นๆ เพื่อบรรเทาอาการเครียดและลดความเสี่ยงต่อตับแข็ง เนื้องอกหรือมะเร็งในตับ
การบำบัดภาวะพลังชี่อั้นในตับมีผลดีต่อผู้ป่วยตับแข็งอย่างไร?
ภาวะพลังชี่อั้นในตับจะส่งผลให้เลือดจับตัวเป็นก้อนหรือเป็นห้อเลือดจนขัดขวางกระบวนการเมตาบอลิซึม
ของน้ำในร่างกาย หากปล่อยไว้เรื้อรัง เซลล์ตับก็จะถูกทำลายมากขึ้นจนกลายเป็นเยื่อพังผืดและทำให้เกิดอาการท้องมานขึ้นมาได้
ดังนั้น ผู้ป่วยโรคตับแข็งที่มีการบำบัดพลังชี่อั้นในตับไปพร้อมๆ กับการรักษาโรคตับแข็งจะได้ผลการรักษาที่น่าพอใจกว่า
อาหารประเภทใดเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งตับ?
อาหารหลายอย่างก็ทำให้เราเสี่ยงต่อโรคนี้ได้เช่นกัน อาทิ อาหารประเภทสุกๆ ดิบๆอาหารที่มีสารดินประสิว
(ไนเตรท และไนไตรท์) เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ไส้กรอกเบคอน เป็นต้น อาหารที่มีเชื้อราซึ่งพบมากในอาหารประเภทถั่วเช่น ถั่วอบแห้ง ถั่วลิสงคั่วหรือ ป่นข้าวโพดอบแห้ง พริกป่น เป็นต้น นอกจากนี้การดื่มสุราเป็นประจำ การเป็นไวรัสตับอักเสบ
ชนิดบีหรือซี รวมทั้งการเป็นพาหะไวรัสบีก็เป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งตับด้วย ดังนั้น เราควร ป้องกันและบำบัดภาวะพลังชี่อั้น
ในตับแต่เนิ่นๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยง สำหรับผู้ที่ไม่มี ภูมิต่อไวรัสตับอักเสบชนิดบีควรฉีดวัคซีนกันไว้ ทั้งนี้เพื่อ
ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ
ภาวะพลังชี่อั้นในตับคืออะไร
เมื่อพูดถึงความผิดปกติของตับหลายๆ คนก็จะคิดโยงไปถึงตับและดัชนีการทำงานของตับ เช่น ค่าเอนไซม์ AST และ ALT
หรือค่า AKP เป็นต้น แต่จริงๆ แล้วตับในความหมายของการแพทย์จีนและตับในความหมายของการแพทย์ตะวันตก
มีทั้งส่วนที่เชื่อมโยงกันและส่วนที่แตกต่างกัน ในทัศนะการแพทย์จีน ตับนอกจากทำหน้าที่ในการผลิตน้ำดี สังเคราะห์โปรตีน
กักเก็บอาหาร ช่วยขับสารพิษและช่วยควบคุมกระบวนการเมตาบอลิซึมของฮอร์โมนแล้ว ตับยังทำหน้าที่ในการกักเก็บเลือด
และปรับปริมาณเลือดของอวัยวะแต่ละส่วนให้เกิดภาวะสมดุลกันโดยทำงานสัมพันธ์กับหัวใจ อีกทั้งยังเป็น
ศูนย์บัญชาการการระบายพลังชี่ให้กระจายไปสู่ทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ตับและอวัยวะอื่นๆ ทำงานได้อย่างราบรื่น หากความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลง ก็จะเกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับ
การไหลเวียนของพลังชี่และเลือดก็จะไม่คล่องตัว ส่งผลให้เส้นลมปราณตับสะดุดและติดขัด
เส้นลมปราณตับจะเริ่มทอดตั้งแต่ปลายนิ้วหัวแม่เท้าไปตามหลังเท้าขึ้นไปสู่น่องเข้าด้านในของเข่าและขา
แล้ววกผ่านอวัยวะเพศ (อัณฑะหรือมดลูก) ขึ้นไปยังท้องน้อยผ่านตับ ถุงน้ำดี เลียบข้างกระเพาะอาหารและขึ้นไปตามปอด
ลำคอ แก้ม ริมฝีปากบริเวณหางคิ้ว ระหว่างคิ้ว หน้าผากและสิ้นสุดที่สมอง การสะดุดและติดขัดของเส้นลมปราณตับ
จึงส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติมากมายตามส่วนต่างๆ ของร่ากาย
ดังนั้น หากแพทย์จีนท่านใดวินิจฉัยว่าคุณมีภาวะพลังชี่่อั้นในตับ คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าคุณเป็นโรคตับ
และไม่ต้องรีบแย้งกลับไปว่าเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา ตับไม่มีปัญหาหรอกเพราะว่าภาวะพลังชี่อั้นในตับไม่ใช่โรคตับในความหมาย
ของการแพทย์ตะวันตก แต่หมายถึงอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดจากความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลง
หากไม่มีการบำบัดรักษาอย่างทันท่วงทีนอกจากจะทำให้คนเราต้องตกอยู่ในความรู้สึกด้านลบ และมีอารมณ์ปรวนแปรเป็นประจำ
แล้วยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของกระเพาะอาหาร ม้ามหัวใจ ไตและอวัยวะอื่นๆ ด้วยพร้อมทั้งอาจพัฒนาเป็นโรคร้ายต่างๆ เช่น
ตับอักเสบตับแข็งเนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านมตับและมดลูก ไทรอยด์อักเสบ เป็นต้น
ภาวะพลังชี่อั้นในตับจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง
ภาวะพลังชี่อั้นในตับนอกจากทำให้คนเราเกิดความรู้สึกด้านลบ และมีอารมณ์ปรวนแปรได้ง่ายขึ้นและบ่อยขึ้นแล้ว
ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายๆด้าน ซึ่งอาจแสดงอาการใดอาการหนึ่งหรือหลายๆอาการพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
ความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลงเพียงใด และระยะเวลาที่เรื้อรัง การวินิจฉัยว่าภาวะพลังชี่อั้นในตับกำลังกัดกร่อน
สุขภาพตนเองหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแค่หมั่นสังเกตว่ามีอาการดังนี้หรือไม่:
คิดมาก วิตกกังวล ตกใจง่าย
ขี้หงุดหงิด โกรธง่ายและมีอาการเกรี้ยวกราดกว่าที่ควร
มีความรู้สึกอ่อนไหว เปราะบาง
ขี้น้อยอกน้อยใจและอยากร้องไห้
มีความรู้สึกเบื่อหน่ายและหดหู่
รู้สึกอ่อนเปลี้ย หมดแรง วิงเวียนศีรษะ ขี้ลืม
หูแว่ว มีภาพหลอน
นอนหลับยากหรือนอนมากเกินไป ชอบง่วงนอนตอนกลางวัน
ต่อมไทรอยด์อักเสบ
รู้สึกมีอะไรจุกอยู่ในคอหอย จะกลืนก็ไม่ลง จะคายก็ไม่ออก
ผิวหน้าซีดเหลือง ไม่มีเลือดฝาดหรือมีฝ้าฮอร์โมนบนใบหน้า
หางคิ้วและระหว่างคิ้วมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร
มุมปากและริมฝีปากหมองคล้ำ
เจ็บหรือคัดเต้านม สำหรับสตรีมักเป็นหนักขึ้นก่อนมีประจำเดือน
รู้สึกหายใจไม่เต็มท้อง ต้องถอนหายใจบ่อยๆ
ปวดแน่นบริเวณชายโครง ทรวงอก แต่ตำแหน่งปวดจะไม่แน่นอน
เบื่ออาหาร ท้องอืดท้องเฟ้อคล้ายอาหารไม่ย่อย เรอบ่อย
มีอาการตึงตัวที่กล้ามเนื้อช่องท้อง ปวดท้องน้อยบ่อย
ท้องร่วงหรืออุจจาระหยาบไม่จับตัวเป็นก้อน
ปวดหน่วงอัณฑะ
ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาเป็นลิ่ม ดำคล้ำหรือปวดประจำเดือน หรือประจำเดือน ขาดหายไป
เป็นเนื้องอกหรือมะเร็งที่เต้านม ตับหรือมดลูก
โรคตับแข็ง
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับโรคที่เกี่ยวข้องกับปัญหาตับแข็ง
หน้าที่เข้าชม | 119,346 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 89,019 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 มิ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 29 ส.ค. 2568 |