การแพทย์จีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นเวลานับพันปี ไม่ว่าทฤษฎีทางด้านกายวิภาคศาสตร์สรีรวิทยา พยาธิวิทยาหรือเภสัชวิทยาของการแพทย์จีนต่างมีความแตกต่างไปจากการแพทย์ตะวันตกอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากพื้นฐานที่แตกต่างกันดังนั้นเพื่อให้เข้าใจหลักการและวิธีการดูแลสุขภาพในทัศนะการแพทย์จีนได้ง่ายขึ้นเอินเวย์ ขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านถอดแว่นของนักวิชาการสมัยใหม่ทิ้งเสีย เพราะหากใช้ทฤษฎีการแพทย์ตะวันตกมาตีความกับการแพทย์จีนแล้วอาจเกิดความสับสนได้...
ประสบการณ์จากผู้ป่วย
เรื่องราวของคุณวัลวิภา
คุณวัลวิภา อายุเพียง 34 ปี มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและมึนศีรษะเป็นประจำมาร่วมปี เธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
ไม่ว่าผลการตรวจเลือดหรือคลื่นแม่เหล็กถ่ายภาพสมอง (MRI)ต่างพบว่าปกติจึงได้แต่คำแนะนำว่าอย่าเครียดและยาปลอบใจ
ที่ว่าจะช่วยบำรุงร่างกายกลับมาทานที่บ้าน แต่อาการต่างๆ ก็ไม่เห็นทุเลาลง คุณวัลวิภาจึงต้องไปโรงพยาบาลอีก 2 แห่ง
หวังว่าจะได้เจอหมอที่เก่งกว่ารักษาให้หายได้แต่ผลการตรวจก็ออกมาเหมือนเดิมว่าปกติทุกประการทั้งๆที่เธอมีอาการหลายอย่างและรู้สึกไม่สบายมาก สุดท้ายเธอก็หันกลับมาหาหมอคนเดิมและขอให้คุณหมอวินิจฉัยใหม่ จนคุณหมอถามเธอว่า
"หมอบอกแล้วว่าคุณไม่ได้เป็นอะไร คุณอยากให้เป็นอะไรหรือไง!?" นอกจากอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและมึนศีรษะแล้ว
เธอยังมีอีกสารพัดอาการ เช่น ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ ขี้หนาว สะดุ้งตื่นเป็นประจำ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ผิวหน้าหมองคล้ำ
ผมร่วง เป็นต้น เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณวัลวิภา ???
ภาวะไตอ่อนแอ... สัญญาณอันตรายของสุขภาพ
คุณอาจมีปัญหาสุขภาพหรือประสบการณ์การรักษาคล้ายกับคุณวัลวิภา เมื่อคุณหมอแผนตะวันตกบอกว่าคนไข้อย่างคุณวัลวิภาเธอไม่ได้เป็นอะไร แล้วคนไข้เหล่านั้นเป็นอะไรกันแน่เกิดจากความเครียดหรืออุปทานไปเองจริงหรือ?!
จริงๆแล้วสารพัดอาการของคุณวัลวิภาหากวินิจฉัยตามหลักการแพทย์จีนคือเกิดจาก ภาวะไตอ่อนแอ ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะ
ของการแพทย์จีนที่ได้มีการบันทึกในตำราการแพทย์มาแล้วนับพันปี หากแพทย์จีนท่านใดวินิจฉัยว่าคุณมีภาวะไตอ่อนแอ
คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าคุณเป็นโรคไตและไม่ต้องรีบแย้งกลับไปว่าคุณเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา
ไตไม่มีปัญหาหรอก เพราะว่าภาวะไตอ่อนแอไม่ใช่โรคไตในความหมายของการแพทย์ตะวันตก หากหมายถึงสภาพไตเสื่อมลง
ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ทำให้สมรรถภาพการขับน้ำและของเสียของไตลดลง ส่งผลกระทบต่อดุลยภาพของอิเล็กโทรไลต์
และความเป็นกรดด่างของร่างกาย รวมทั้งเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนชนิดสำคัญที่สร้างจากไตและต่อมหมวกไตด้วย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดอาการผิดปกติของอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย หากไม่มีการบำบัดรักษาอย่างทันท่วงทีก็จะแก่ก่อนวัยและพัฒนากลายเป็นโรคร้ายต่างๆ เช่นโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคเกาต์ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น หรืออาจพัฒนากลายเป็นไตอักเสบหรือไตวายได้ในที่สุด
ไตคือรากฐานของชีวิต...
ไต (รวมทั้งต่อมหมวกไตด้วย) มีบทบาทสำคัญยิ่งในการควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย การพัฒนาสมอง
การสร้างกระดูก การสร้างเม็ดเลือด สมรรถภาพทางเพศ การสืบพันธุ์และความชรา นอกจากนี้ไตยังมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด
กับระบบการทำงานของหัวใจ ปอด ตับ ม้าม ระบบฮอร์โมน ระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เนื่องจากไตมีหน้าที่สำคัญดังนี้:
ขับของเสียออกจากร่างกาย เช่น ของเสียที่มาจากการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของเสียที่มาจากการ
เผาผลาญอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ของเสียที่มาจากการใช้ยาสารเคมีหรือสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เป็นต้น
รักษาความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ไตจะทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำและระดับความเข้มข้นของเกลือแร่
ในร่างกาย เช่น โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัสแมกนีเซียม เป็นต้น ถ้าไตไม่แข็งแรง ปริมาณน้ำและเกลือแร่
ในร่างกายก็จะขาดความสมดุลจนเกิดผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
รักษาความสมดุลของสภาพความเป็นกรดและด่าง ไตทำหน้าที่รักษาความเป็นกรดและด่างของร่างกายให้อยู่ใน
ภาวะสมดุล เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ
ควบคุมความดันโลหิตของร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติ ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะควบคุมความดันโลหิต
ในร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ถ้าไตทำงานผิดปกติ ความดันโลหิตก็จะสูงผิดปกติ
ไตทำหน้าที่ควบคุมและสร้างฮอร์โมนสำคัญหลายชนิด เช่น Erythropoietin ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการกระตุ้น
ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง Renin และ Prostaglandin ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการช่วยควบคุมความดันโลหิตในร่างกาย เป็นต้น
ไตทำหน้าที่ควบคุมความแข็งแกร่งของกระดูก ไตควบคุมการสร้างวิตามินดี แคลเซียมและฟอสฟอรัส
ถ้าไตเสื่อมลงกระดูกก็จะไม่แข็งแรงหรือผุกร่อน รวมทั้งระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในเลือดก็อาจผิดปกติ จนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
การแพทย์จีนจึงเปรียบเสมือนไตเป็นรากฐานของชีวิต และนิยมใช้วิธีบำรุงรักษาไตเพื่อสร้างเสริมสุขภาพหรือบำบัดหลายๆ
อาการให้หายพร้อมๆ กัน ทั้งๆที่แต่ละอาการดูเหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันในมุมมองของการแพทย์ตะวันตกก็ตาม บำรุงไต บำบัดสารพัดโรค จึงถือเป็นวิทยาการอันล้ำค่าของการแพทย์จีนและมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพของชาวจีนมาโดยตลอดจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีนไปแล้ว
สาเหตุใดทำให้ไตเสื่อมเร็วกว่าปกติ
ไตจะเสื่อมลงตั้งแต่อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นความเสื่อมของร่างกายที่เป็นไปตามวัฏจักรเกิด แก่ เจ็บ ตายของสิ่งมีชีวิต
จึงไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนจะเสื่อมเร็วช้าหรือมากน้อยอาจไม่เท่ากันในแต่ละคน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิ:
กรรมพันธุ์ พ่อแม่ไม่แข็งแรงหรือมีลูกตอนอายุน้อยหรืออายุมากเกินไปหรือมีลูกหลายคนหรือคลอดก่อนกำหนด
หรือตอนตั้งครรภ์คุณแม่มีอาการเครียด ไม่มีการพักผ่อนและบำรุงอย่างเพียงพอ ทำให้ไตของลูกอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด
การมีเพศสัมพันธ์มากเกินควร ทำให้ไตสูญเสียพลังมากไป
ประสบอุบัติเหตุ ไตถูกกระทบกระเทือนหรือถูกกระแทกอย่างแรงบริเวณเอว
ทำงานหนัก ทำงานเกินกำลังหรือทำงานหามรุ่งหามค่ำ อดหลับอดนอน
โรคเรื้อรังต่างๆ ความดันโลหิตสูง มะเร็ง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง
วัณโรค หน่วยไตอักเสบ กรวยไตอักเสบ SLE โรคเกาต์ ฯลฯ
ปัจจัยเสี่ยงในชีวิตประจำวัน ผลกระทบจากการใช้ยาเคมี เช่น ยาแก้ปวด ยาคุมกำเนิด ยารักษาสิว ยาลดความดัน
ฮอร์โมนทดแทน ยาลดความอ้วน ฯลฯ ความเครียด มลภาวะเป็นพิษ ยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในผักผลไม้ สารฮอร์โมน
ที่สะสมในเนื้อสัตว์ อาหารทะเลที่แช่ ฟอร์มาลินหรือได้รับสารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม สารโซเดียม (ผงชูรส ผงฟู ฯลฯ)
ที่มีอยู่ตามอาหาร ขนมขบเคี้ยวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารรสจัด รสเค็ม และเครื่องดื่มที่ผสมสี ฯลฯ
ปัจจัยดังกล่าวล้วนทำให้ไตเสื่อมลงอย่างรวดเร็วและก่อนวัยอันควร เราจึงพบบ่อยว่าหลายๆคนแม้ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว
แต่ก็มีอาการของภาวะไตอ่อนแออย่างครบครันเช่นเดียวกับ คุณวัลวิภา
ภาวะไตอ่อนแอจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง
ภาวะไตอ่อนแอจะแสดงอาการหลากหลายตามระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจแสดงอาการใดอาการหนึ่งหรือหลายๆอาการพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพความเสื่อมโทรมของไต อายุและระยะเวลาที่เรื้อรัง การวินิจฉัยตนเองว่ามีภาวะไตอ่อนแอ
หรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย เพียงแค่สังเกตว่าตนเองมีอาการดังนี้หรือไม่ ให้ทำเครื่องหมาย ✔ ที่หน้าหัวข้อนั้นๆ
หากตรงกับอาการของตน
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืนต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ
ปัสสาวะไม่สุด กะปริดกะปรอย
อั้นปัสสาวะไม่อยู่
น้ำปัสสาวะขุ่นหรือมีฟอง
อาการบวมน้ำ (ใช้นิ้วกดบริเวณหน้าแข้งแล้วมีรอยบุ๋ม)
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
ปวดหลังปวดเอว แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง
ชาปลายมือปลายเท้า
เป็นตะคริวบ่อย
ปวดข้อเป็นประจำ
เป็นโรคเกาต์ ภาวะกระดูกพรุน
ระบบประสาทและอารมณ์
เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียง่าย
วิงเวียนศีรษะเป็นประจำ
นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ตื่นตอนกลางคืนเป็นประจำ
แขนขากระตุกในขณะนอนหลับหรือสะดุ้งตื่นเป็นประจำ
ฝันทั้งคืน ตื่นเช้าขึ้นมาไม่สดชื่น ไม่อยากลุกจากที่นอน
ฝันว่าตกจากที่สูงจนตกใจตื่นเป็นประจำ
ซึมเศร้า กระวนกระวายหรือวิตกกังวล
ขี้หลงขี้ลืม ขาดสมาธิ
มีเหงื่อออกมากในขณะนอนหลับ
ขี้หนาว ฝ่ามือฝ่าเท้าร้อนหรือเย็นเกินไป
ระบบทางเดินอาหาร
เบื่ออาหาร
ลำไส้แปรปรวน
อุจจาระร่วงโดยเฉพาะร่วงระหว่างเช้ามืดถึงก่อนเที่ยง
อุจจาระไม่จับตัวเป็นก้อน
ท้องอืดท้องเฟ้อหรือท้องผูกเป็นประจำ
ระบบภูมิต้านทาน
เป็นหวัดบ่อยหรือเป็นหวัดง่าย
จาม คัดจมูกหรือน้ำมูกไหลเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง
ลมพิษ
สะเก็ดเงิน
SLE
ปวดข้อรูมาตอยด์
ระบบทางเดินหายใจ
ไอเรื้อรัง
หอบหืด
ระบบสืบพันธุ์
หย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือความต้องการทางเพศลดลง
ฝันเปียกมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือหลั่งเร็วเป็นประจำ
ประจำเดือนมาผิดปกติ
ช่องคลอดไม่กระชับหรือเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
มีบุตรยากหรือแท้งบุตร
เข้าสู่วัยทองก่อนวัยอันควร
สภาพภายนอกของร่างกาย
ผิวหน้าหมองคล้ำ หยาบกร้าน ไม่มีเลือดฝาด มีฝ้าบนใบหน้า
ใต้ตาหมองคล้ำหรือบวม
หน้าอกหย่อนยาน
ผมหงอกก่อนวัย
ผมร่วงเกิน 50 เส้นต่อวันหรือร่วงเป็นจำนวนมากตอนสระผม
น้ำหนักขึ้นหรือลงอย่างฮวบฮาบ
อาการทางหู-ตา
หูอื้อหรือไม่ค่อยได้ยิน ต้องให้คนอื่นพูดซ้ำเป็นประจำ
ตาลาย ตาพร่า
โรคเมเนียส์ (น้ำในหูไม่เท่ากัน)
หากคุณมีมากกว่า 2 อาการแสดงว่าไตของคุณเสื่อมลงแล้ว ยิ่งมีอาการมากเท่าไรไตก็ยิ่งเสื่อมโทรมลงมากเท่านั้น
ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของสุขภาพที่คุณควรจะหันมาใส่ใจอย่างจริงจัง
ภาวะไตอ่อนแอ... ป้องกันและรักษาได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าไตจะเสื่อมลงตามวัยซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ของธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ถูกสุขลักษณะและวิธีการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง และทันท่วงทีสามารถช่วยชะลอภาวะไตอ่อนแอก่อนวัยอันควรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม เช่นยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในผักผลไม้
สารฮอร์โมนที่สะสมในเนื้อสัตว์อาหารทะเลที่แช่ฟอร์มาลินสารโซเดียมที่อยู่ตามอาหาร ขนมขบเคี้ยวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เช่น ผงชูรส ผงฟู เป็นต้นอาหารรสจัด รสเค็ม อาหารและเครื่องดื่มที่ผสมสี ฯลฯ
การควบคุมอารมณ์ ควรมีจิตใจที่ร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดีและพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ช่วยปรับการทำงานของไตกับอวัยวะอื่นๆ ให้สมดุลขึ้น
การมีเพศสัมพันธ์ที่พอเหมาะ หลังมีเพศสัมพันธ์แล้ว ในวันรุ่งขึ้นจะต้องไม่รู้สึกอ่อนเพลียและมีอารมณ์ที่ปลอดโปร่ง
หลีกเลี่ยงการใช้ยาเคมีอย่างพร่ำเพรื่อ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาเคมี เช่น ยาแก้ปวดยารักษาสิว ยาคุมกำเนิด ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมนทดแทน เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของไตและอวัยวะอื่นๆในร่างกายจึงควรตระหนักและใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
ควรรักษาโรคเรื้อรังอย่างจริงจัง โรคเรื้อรังหลายอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงไขมันในเลือดสูง มะเร็ง SLE
โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคตับ เป็นต้น จะส่งผลกระทบต่อไตอย่างรุนแรง และเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีอาการของภาวะไตอ่อนแอแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน การปฏิบัติตามวิธีดังกล่าว
ย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน การแพทย์จีนจึงเน้นวิธีการบำรุงรักษาไตด้วยยาสมุนไพรจีนเป็นหลัก เมื่อไตแข็งแรงขึ้น
สารพัดอาการที่เกิดจากภาวะไตอ่อนแอก็จะค่อยๆ ทุเลาลงหรืออาจหายไปในที่สุด
การบำรุงรักษาไตทำไมต้องเริ่มตั้งแต่วัยหนุ่มสาว
การบำรุงรักษาไตจำเป็นจะต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงแม้ว่าอายุยังไม่ถึง 30 ปีก็ตาม ไตอ่อนแอในช่วงแรกเราอาจไม่รู้สึกมีอาการ
ผิดปกติมากมายก็ได้ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วร่างกายสามารถปรับตัวได้ระดับหนึ่งเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการต่างๆของภาวะไตอ่อนแอมักจะเรื้อรังอย่างช้าๆ จนเราคุ้นเคยกับความผิดปกติของร่างกาย
ถึงขนาดลืมไปแล้วว่าตอนเราปกติจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ผลตรวจการทำงานของไตตามหลักการแพทย์ตะวันตกที่ต้องรอให้ไตเสียไปมากกว่า 70% จึงแสดงค่า BUN
และ Creatinine ที่ผิดปกตินั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่าถ้าผลตรวจยังปกติ ก็แสดงว่าไตยังแข็งแรงอยู่
ทั้งๆที่ไตเสื่อมไปมากแล้วก็ตามจึงทำให้หลายๆ คนชะล่าใจและปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรังจนพัฒนาเป็นโรคร้ายต่างๆ
แล้วค่อยดิ้นรนรักษาด้วยทุกวิถีทาง
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะไตอ่อนแอ
หน้าที่เข้าชม | 119,346 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 89,019 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 มิ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 29 ส.ค. 2568 |